Carbonwize คือระบบบริหารจัดการคาร์บอนแบบครบวงจร ที่ช่วยองค์กรคำนวณ รายงาน และวางแผนลดก๊าซเรือนกระจกด้วยระบบที่ใช้งานง่าย เชื่อมต่อข้อมูล Scope 1–3 อัตโนมัติจากค่าน้ำ ค่าไฟ และระบบบัญชี พร้อมคำนวณตามมาตรฐานและออกรายงานที่พร้อมทวนสอบได้ทันที

แพลตฟอร์มของเราช่วยลดภาระทีมสิ่งแวดล้อม ลดค่าใช้จ่าย และช่วยวางระบบการทำงานให้ต่อเนื่องในองค์กร ข้อมูลที่สร้างจาก Carbonwize สามารถนำไปใช้ต่อในรายงานด้านความยั่งยืนขององค์กร (Sustainability Report) และรองรับการขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ในระยะยาว

รวมถึง Carbonwize มีฟีเจอร์ Decarbonization Pathways เพื่อช่วยให้องค์กรวางกลยุทธ์ ลดคาร์บอนได้อย่างตรงจุดและวัดผลได้จริง ระบบติดตามโครงการลด และการจัดการคาร์บอนในซัพพลายเชน แพลตฟอร์มของเราเป็นระบบระดับ Audit-grade ผ่านการรับรองจาก อบก. ผ่านการร่วมทำงานกับ VVBs กว่า 40 ราย และได้ร่วมความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกขั้นตอน

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) คือ ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ของสินค้า องค์กร อีเว้นท์ และอื่นๆ เช่น การใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง หรือการจัดการขยะ โดยมีหน่วยเป็น tCO₂e และ ไม่สามารถซื้อขายได้ เพราะเป็นตัวชี้วัดผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง

คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้หรือกักเก็บได้จากการดำเนินโครงการและได้ขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น T-VER, Verra หรือ Gold standard ซึ่ง สามารถซื้อขายได้ และมีหน่วยเป็น tCO₂e เช่นกัน ตัวอย่างโครงการคาร์บอนเครดิต ได้แก่ โครงการพลังงานหมุนเวียน โครงการจัดการขยะ การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า หรือการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากป่าไม้และการเกษตร

สรุปง่ายๆ คาร์บอนฟุตพริ้นท์วัด “สิ่งที่ปล่อยออกมา” ส่วนคาร์บอนเครดิตคือ “สิ่งที่ลดหรือกักเก็บได้” ผ่านโครงการที่ได้รับการรับรอง

อ้างอิง: องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน)

การเริ่มต้นรายงานคาร์บอนองค์กรควรเริ่มจากการกำหนด ขอบเขตการปล่อย (Boundary & Scope) และเลือก มาตรฐานอ้างอิง เช่น GHG Protocol, ISO 14064-1 หรือ TGO CFO จากนั้นกำหนด Base Year/Baseline เพื่อใช้เป็นปีอ้างอิงในการเปรียบเทียบการปล่อยในอนาคต

ก่อนเริ่มรวบรวมข้อมูลกิจกรรมที่ทำให้เกิดการปล่อย (Activity Data) เช่น การใช้ไฟฟ้า การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากการเดินทางและการขนส่ง การจัดซื้อวัตถุดิบต่างๆ การจัดการขยะ หรือข้อมูลจากซัพพลายเชน เพื่อนำไปคำนวณคาร์บอนด้วยสูตรพื้นฐาน Activity Data × Emission Factor (EF) โดยใช้ EF จากฐานข้อมูลที่ได้รับการยอมรับ เช่น TGO หรือ IPCC แล้วจัดทำรายงานและเตรียมข้อมูลสำหรับการทวนสอบ ข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนแรกเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการจัดทำรายงานด้านความยั่งยืน และใช้สื่อสารกับลูกค้า นักลงทุน หรือหน่วยงานกำกับดูแล

สำหรับผู้เริ่มต้น Carbonwize มีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา พร้อมแพลตฟอร์มคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องคำนวณมือหรือหาสูตรเองให้เสียเวลา และสามารถออกรายงานที่พร้อมทวนสอบตามมาตรฐานได้ทันที

การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท (Scope 1, 2 และ 3) เพื่อช่วยให้องค์กรเข้าใจ “แหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” อย่างครบถ้วน ทั้งส่วนที่ปล่อยเองโดยตรงและส่วนที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน

• Scope 1: การปล่อยโดยตรงจากกิจกรรมขององค์กร เช่น ยานพาหนะ เครื่องจักร หรือกระบวนการผลิต
• Scope 2: การปล่อยทางอ้อมจากการใช้พลังงานไฟฟ้า ความร้อน หรือไอน้ำที่องค์กรซื้อมา
• Scope 3: การปล่อยทางอ้อมจากห่วงโซ่อุปทาน เช่น การขนส่ง การเดินทางของพนักงาน หรือการใช้ผลิตภัณฑ์

Carbonwize รองรับการคำนวณครบทั้งสาม Scope พร้อมระบบดึงข้อมูลอัตโนมัติจากไฟฟ้า น้ำมัน ระบบบัญชี และซัพพลายเชน ช่วยลดงานแมนนวลและเพิ่มความถูกต้องของข้อมูลในการจัดทำรายงานคาร์บอน

การจัดทำรายงานคาร์บอนขององค์กร ควรอ้างอิงมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ เพื่อให้การรวบรวมข้อมูล การจัดประเภทการปล่อยและรูปแบบการรายงานเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง โปร่งใส และสามารถตรวจทวนสอบได้ในระยะยาว ซึ่งมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระดับนานาชาติและระดับประเทศ ได้แก่

• GHG Protocol เป็นกรอบมาตรฐานสากลที่ใช้แพร่หลายที่สุดในการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกขององค์กร พัฒนาโดย World Resources Institute (WRI) และ World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) ถือเป็น “แม่บท” ที่หลายมาตรฐานทั่วโลกอ้างอิงแนวคิดพื้นฐานในการจำแนก Scope และหลักการรายงานต่างๆ และเป็นมาตรฐานที่องค์กรทั่วโลกกว่า 90% ใช้เป็นกรอบหลักในการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก
• ISO 14064-1 เป็นกรอบมาตรฐานสากลที่พัฒนาโดย International Organization for Standardization (ISO) องค์กรจัดทำมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก มาตรฐานนี้ได้รับการใช้โดยโรงงานและองค์กรขนาดใหญ่ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก ทำให้ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกับการเปิดเผยด้านความยั่งยืนได้อย่างเป็นระบบ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการเตรียมข้อมูลเพื่อการทวนสอบ โดยสามารถทวนสอบได้ผ่านหน่วยงานทวนสอบสากล และใช้ยื่นต่อคู่ค้าต่างประเทศได้อย่างเป็นทางการ
• TGO CFO เป็นมาตรฐานการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในประเทศไทย จัดทำโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยปรับใช้หลักการของ GHG Protocol และ ISO ให้เหมาะกับบริบทประเทศไทย และกำหนดให้การทวนสอบต้องดำเนินการโดย VVBs ที่ขึ้นทะเบียนกับ อบก. เพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลตามเกณฑ์ในประเทศ

โดยแพลตฟอร์ม Carbonwize รองรับมาตรฐานทั้งสามแบบครบถ้วน ช่วยให้องค์กรสามารถจัดทำรายงานที่ถูกต้อง โปร่งใส และสามารถนำไปใช้ยื่นต่อ อบก. (TGO) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลูกค้า และคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ระบบยังรองรับการออกรายงานทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อให้ข้อมูลนำไปใช้งานได้ในทุกบริบทอย่างมั่นใจ